เปิดใจ หาคำตอบ ภูกระดึง มีอะไร?? ตอนจบ

ตำบล ศรีฐาน อำเภอ ภูกระดึง เลย 42180 ประเทศไทย
ปก2.jpg

เข้าสู่ตอนที่ 2 ของการตามหาคำตอบว่า ภูกระดึงมีอะไร ทำไมนักท่องเที่ยวที่้เคยไปแล้ว ถึงไปอีกซ้ำๆหลายครั้ง


จากที่แอดมินได้ทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้ว(เปิดใจ...หาคำตอบ...ภูกระดึง...มีอะไร?? ตอนที่ 1 )ว่า เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับแอดมินขึ้น นั่นก็คือ ตอนที่แอดมินและทีมงานบางส่วนเดินไปยังบ้านพักของพี่แอมเพื่อไปแต่งหน้านั้น แอดมินรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ จึงขอนอนพักในระหว่างรอทีมงานแต่งหน้าทำผม ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เกือบๆจะ 6 โมง
แอดมินนอนไปสักพัก ก็รู้สึกแน่นหน้าอกค่ะ แน่นมากๆจนนอนต่อไม่ได้ ลุกขึ้นมา ถึงกับอาเจียนกันเลยทีเดียว ได้โทรศัพท์ไปขอยากับทีมงานคนอื่นๆที่รออยู่บ้านพักค่ะ ทานยาลงไปแล้วก็ไม่หาย ไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด แน่นเข้าๆ เดินแทบจะไม่ไหว จนทีมงานได้พากลับไปยังที่พัก
เมื่อบอกอาการเสร็จ สิ่งที่แอดมินเป็นอยู่นั่นก็คือออ เอ็นท้องจ้าาาา (แป่ววววว)

ตอนแรกก็นวดปกตินะคะ หลังๆมาเริ่มเหยียบ หนักสุดก็พี่ต้อมค่ะ แทบจะกระทืบแอดมินกันเลยทีเดียว ในใจตอนนั้นคิดว่า อาจจะไม่ตายเพราะฤทธิ์การปวดหรอก แต่อาจตายเพราะฤทธิ์ส้นเท้าพี่ต้อมก็ได้ เจ็บจนน้ำตาไหลเลยค่ะ พร้อมกับเสียงหัวเราะสะใจอยู่ข้างๆ ฮือออ T[]T
เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย~ หลังจากที่ได้รับการรักษา(ด้วยส้นเท้า) ของพี่ต้อมและพี่ติ๊กแล้ว ก็ไปซัดส้มตำเผ็ดๆให้รู้สึกดีขึ้นค่ะ ภาษาอีสานคงต้องบอกว่า ให้สร่วง นั่นเองนวดคลายกล้ามเนื้ออยู่ที่พัก

บรรยากาศการรักษาด้วยส้นเท้าของพี่ต้อมและพี่ติ๊กค่ะ 55555 แต่ก็ต้องขอบคุณมากเลยค่ะ ที่ทำให้หายเป็นปกติ

ในเช้าวันที่ 14 แอดมินและทีมงานบางส่วนก็ออกไปแต่งหน้าให้พี่แอมอีกเช่นเคยค่ะ แต่งหน้าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหอบผ้าห่มไปด้วย เนื่องจาก หนาวมากกก หนาวจี๊ดถึงใจ ขนาดจะแปรงฟันยังเย็นไปถึงสมองเลยค่ะ ลมนี้แรงมากๆ หนาวมากด้วย เราห่อกันกลม เหมือนขนมปังโรล
เดินต่อเท้า สั่นดิ๊กๆ ไปบ้านพักของพี่แอม หลังจากที่แต่งหน้า(แบบไม่เสร็จ) เราก็รีบไปขึ้นรถ เพื่อไปยัง ผานกแอ่น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงค่ะ เนื่องจากจะมีการจัดงานจดทะเบียนสมรมหมู่บนภูกระดึงที่ทางเจ้าหน้าที่จัดขึ้น จึงมีรถบริการไปส่งคู่รักและนักท่องเที่ยวบางส่วนไปยัง ผานกแอ่นค่ะ (โชคดีมากค่าาา)

บริเวณผานกแอ่นจะไม่มีไฟฟ้านะคะ เราจึงต้องเปิดไฟฉายแต่งหน้ากันค่ะ ลมก็แรง อากาศก็หนาว ช่างแต่งหน้าก็มือแข็งไปตามๆกันค่ะ
แต่งหน้าเจ้าสาวที่ผานกแอ่น

บรรยากาศการแต่งหน้าใต้แสงไฟฉาย และผ้าห่ม เพราะหนาวมากเลยค่ะ

หนาวไม่หนาว ดูได้จากทีมงานของเราค่ะ ห่อผ้าห่มกันกลมเชียว พอพระอาทิตย์เริ่มขึ้น ก็เริ่มเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยว เพราะสวยงาม ล้ำค่าสุดๆ แสงที่เส้นขอบฟ้า เหมือนแบ่งฟ้าออกเป็น 2 ซีก อบอุ่นหัวใจจริงๆค่ะ หลังจากนั้นเราก็ได้ไปเก็บภาพบรรยากาศการจดทะเบียนสมรสกันค่ะระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น

ที่ผานกแอ่น หนาวจนต้องหอบผ้าห่มไปห่มกันเลยทีเดียว
พระอาทิตย์กำลังจะโผล่ให้เห็นที่ผานกแอ่น
พระอาทิตย์กำลังขึ้น เรียกเสียงฮือฮาจากนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากเลยค่ะ
พระอาทิตย์ขึ้นแบ่งเส้นขอบฟ้าที่ผานกแอ่น
พระอาทิตย์ขึ้นเป็นเส้นแบ่งขอบฟ้า สวยมากๆเลยค่ะ

การทำกิจกรรมต่างๆของคู่รัก นับว่าอิ่มเอมไปตามๆกันค่ะ และแอดมินได้มีโอกาสไปนั่งดูเค้าสัมภาษณ์คู่รักแต่ละคู่ที่มาจดทะเบียนกันบนภูกระดึงแห่งนี้ บอกเลยค่ะว่า เขินอย่างกับว่าเป็นตัวเองอย่างไงอย่างงั้น 5555สัมภาษณ์คู่รักจดทะเบียนสมรสหมู่บนภูกระดึง

แอบไปดูทีมงานสัมภาษณ์คู่รักมาค่ะ อิ่มเอมมาก เขินด้วย 55555

หลังจากที่เราเก็บภาพ และทานข้าวกันแล้ว แอดมินก็ได้พบกับชาวต่างชาติเข้า เลยมีโอกาสได้พูดคุยด้วย ซึ่งมีชื่อว่า คุณแดน ค่ะ คุณแดนน่ารักมากๆ มาที่ภูกระดึงบ่อยด้วย แถมยังเหมือนซานต้าครอส อดที่จะอมยิ้มไม่ได้เลยค่ะสัมภาษณ์ชาวต่างชาติที่ผานกแอ่น

คุณแดนน่ารักมากเลยค่ะ บอกว่า ภูกระดึง เหมือนเป็นบ้านเลย เป็นการพูดคุยที่อบอุ่นมากๆค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลากลับแล้วค่ะ เรามาแบบสบาย เพราะนั่งรถมา แต่ขากลับเราต้องเดินกลับไปค่า 55555 แต่ไม่ใช่ปัญหา ทีมงานบางส่วนก็ไปเก็บของรอ ส่วนแอดมินก็เดินไปเก็บภาพตามสถานที่ต่างๆ ระหว่างทางค่ะเก็บภาพที่ลานวัดพระแก้วบริเวณนี้จะเป็นลานวัดนะคะ เป็นลานหินกว้างพอสมควร ค่ะองค์พระพุทธรูปที่วัดพระแก้ว ภูกระดึง
องค์พระ บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง


เมื่อทำภารกิจอะไรเสร็จเรียบร้อยทีมงานโกทูเลยพร้อมกับคู่รักนักบิด ก็มารอรถเพื่อเดินทางไปยังผาหล่มสักค่ะ เนื่องจากเราไปถ่ายทำจึงมีรถไปส่งอีกเช่นเคย 5555 เรารอรถกันตั้งแต่ 9 โมงจนถึงเที่ยง โดยประมาณนะคะ รอจนหลับ ตื่นมา ไร้วี่แววนักท่องเที่ยว เงียบมากกกก น่าจะเหลือแต่ทีมงานโกทูเลยที่ยังอยู่ ณ จุดบริการนักท่องเที่ยว บางส่วนอาจจะกลับแล้ว บางส่วนอาจจะไปชมตามสถานที่ต่างๆนั่นเองค่ะระหว่างรอรถมารับไปยังผาหล่มสัก

ระหว่างรอรถมารับ เงียบมากเลยค่ะ

การเดินทางไปยังผาหล่มสักนี้ อารมณ์ตอนนั้นคล้ายๆกับว่า เรานั่งรถที่ซาฟารีเวิร์ล เหมือนนั่งรถท่องส่องสัตว์ แต่แค่ไม่มีสัตว์ให้ได้ได้ชมแค่นั่นเองค่ะ 55555 โซเฟอร์ซิ่งมากกก ในช่วงที่ต้องขับผ่านร่องกลางของต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทาง พี่โซเฟอร์ไม่เบรคเลยค่ะ จนทีมงานร้องลั่นกันเพราะเสียวมาก และด้วยความที่ร่องรอยขูดข่วนที่ต้นไม้ก็ยังหลงเหลืออยู่ ใจหวิวเลยค่ะ หวาดเสียวมากกก 55555นั่งรถเดินทางไปยังผาหล่มสัก

บรรยากาศการเดินทางไปยัง ผาหล่มสัก ไกลมากกก จนทีมงานเหงาหลับกันเลยค่ะระหว่างเดินทางไปผาหล่มสัก

นั่งรถส่องสัตว์ที่ซาฟารี เอ้ยยย นั่งรถไปผาหล่มสักค่ะ

เมื่อรถมาแล้ว ก็ลุยเลยค่า เราใช้เวลาเดินทางด้วยรถ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง นับว่าไกลและนานมากจริงๆ ตอนนั้นก็ไปเข้าไป บ่ายโมงแล้ว แอบกลัวว่าจะลงก่อนบ่าย 2 ไม่ทัน จึงรีบเก็บภาพ แล้วรีบไปทานข้าวกัน จากนั้นก็รีบขึ้นรถเพื่อเดินทางไปเรียบเขาไปยังหลังแป โดยตอนนั้นเป็นเวลา บ่าย 3 โมงแล้วค่ะ ทีมงานมีความกังวลใจเล็กน้อยว่า อาจจะลงไปถึงค่ำ หรือกลัวจะจ๊ะเอ๋กับสัตว์อะไรเข้าหรือเปล่า จึงอาจต้องทำเวลาในการเดินทางลงพอสมควรค่ะ
เก็บภาพที่ผาหล่มสัก

จุดถ่ายรูปยอดฮิตสำหรับผาหล่มสักค่ะ

และเมื่อเก็บภาพและทานข้าวกันเรียบร้อยแล้ว เราก็รีบเหาะไปที่หลังแป ความท้าทายของเรา คือ ใช้เวลาในการลงจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ให้น้อยที่สุด เมื่อรู้โจทย์แล้วอย่ารอช้าค่ะ ทุกคนวิ่งกันเลยล่ะค่ะงานนี้ 55555 ขาขึ้นลำบากแค่ไหนและสนุกแค่ไหน ขาลงนี้คูณเป็นสองเท่าเลยค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ ไม่แนะนำให้ทำนะคะ หากเลยเวลาบ่าย 2 โมงแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ควรเดินทางลงจากอุทยานเลยค่ะ เพราะจะใช้เวลาค่อนข้างนานในการเดินลง ถ้ารีบมากๆ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญ การวิ่งลงแบบที่ทีมงานทำนี้ เสี่ยงต่อการกลิ้งลงเขามากเลยค่ะ 5555 แต่ด้วยเหตุสุดวิสัย ที่เราจำเป็นต้องลงจริงๆ จึงเลี่ยงไม่ได้

วิ่งทะยานฝ่าโค้งนรก ด่านแรก เราถึงซำแคร่อย่างปลอดภัย แวะเข้าห้องน้ำ เสร็จก็ลุยกันต่อเลยค่ะ เดินบ้าง วิ่งบ้างเป็นบางช่วง และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลย เราร้องเพลงและเต้นกันมาตลอดทางอีกเช่นเคยค่ะ 5555 ความสนุกนี้จัดเต็มจริงๆ ถึงซำไหน ก็ร้องเพลงเต้นกัน จนแม่ค้าหัวเราะไปกับเรา
เราใช้เวลาลงทั้งสิ้น 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะทุกท่าน นับว่าเร็วมาก และไม่เหนื่อยเลย นั่นอาจจะเพราะว่าเราสนุกกับมัน พอสวนทางกับนักท่องเที่ยวที่มายังอุทยานแห่งชาติภูกระดึงในวันใหม่ เราก็ให้กำลังใจเค้าทุกคนอีกเช่นเคยค่ะระหว่างเดินลงภูกระดึง

ไว้จะกลับมาใหม่นะ ภูกระดึง (ภาพโดยโอ๋)

จากการเดินทางในครั้งนี้ สิ่งที่แอดมินเสียดายมากๆ คือ แอดมินไม่ได้แวะชมความสวยงามตามผาต่างๆ ไม่ได้ชมทะเลหมอกบนภูกระดึง ไม่ได้เดินชมใบเมเบิ้ล ไม่ได้ชมน้ำตกที่ว่ากันว่า มีมากมายบนภูกระดึงแห่งนี้ แต่...แอดมินจะกลับมาที่นี่อีกค่ะ
เพราะอย่างนั้น ทุกท่านต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองนะคะ ว่ามันสวยงามขนาดไหน ทุกท่านต้องมาพิสูจน์ว่า ทำไม มาแล้ว ถึงต้องอยากมาอีก...

สุดท้ายนี้ สิ่งที่แอดมินตามหานั้น แอดมินได้เจอในแบบฉบับของแอดมินแล้วค่ะ เสน่ห์ของการมาที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง คงไม่พ้นลูกหาบ ที่แข็งแรงมากๆ และสู้เพื่อลูกเพื่อครอบครัว คำนี้เป็นคำที่แอดมินได้ยินและฮึดสู้เพื่อจะเดินต่อค่ะ เสน่ห์อีกอย่างคือ การพูดคุยระหว่างทางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทักทายกับนักเที่ยว
รวมถึงการให้กำลังใจกันตลอดเส้นทาง อยากบอกว่าประทับใจในจุดนี้ที่สุดเลยค่ะ มันมีความสุขแบบไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ได้แต่ยิ้มไปพลาง เดินไปพลาง บอกได้เลยว่า แอดมินจะกลับมาที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง แห่งนี้อีกค่ะ จะมาปั่นจักรยานชมหน้าผา และสถานที่อื่นๆให้ได้
ภูกระดึง มีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ...

และต้องขอขอบคุณคู่รักทุกๆคู่ คู่รักนักบิดที่ต้อนรับ และคอยดูแลพวกเราเป็นอย่างดีค่ะ
ขอบคุณมิตรภาพสำหรับการเดินทางครั้งนี้ สวัสดีค่ะ...ทีมงาน Gotoloei

เพราะเพื่อนร่วมทางสำคัญ กาเรดินทางจึงมีความหมาย...ทีมงานโกทูเลย

(ขอขอบคุณที่ติดตามนะคะ : แอดมินไก่น้อย)