คัมภีร์เที่ยว 1 Day Trip Chiang Khan เชียงคานอำเภอเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความงดงาม โควิดซาผ่านมาแล้ว อย่าลืมมากอดเชียงคานให้หายคิดถึงกันนะครับ... เชียงคาน สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยมา หรือบางคนอาจจะเดินทางมายังอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ จนนับจำนวนครั้งไม่ได้ และอีกหลายคนก็ไม่รู้ว่าเชียงคานนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูทอก สถานที่ชมทะเลหมอกยามเช้า แก่งคุดคู้แก่งแม่น้ำโขงสองแผ่นดินไทย-ลาว วัดเก่าแก่ต่างๆ รวมถึงถนนคนเดินเชียงคานที่เปิดให้ได้เดินชม บรรยากาศ ซื้อของกิน ของฝากกันทุกวันไม่มีวันหยุด ที่เที่ยวเยอะขนาดนี้ อดคิดไม่ได้ใช่ไหมครับ ว่าต้องใช้เวลากี่วันถึงจะเที่ยวให้ครบ แต่แท้ที่จริงแล้วเราสามารถเที่ยวในหลายๆ สถานที่ของเชียงคานได้ภายใน 1 วันเท่านั้น Gotoloei จึงจะมาแนะนำ กิจกรรมเที่ยวเชียงคานภายในหนึ่งวันว่า ควรไปเที่ยวที่ไหนดี มาวางแผนการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กันนะครับเริ่มจากเช้าตรู่ ควรตื่น ไม่เกิน 05.30 เพื่อจะได้เตรียมตัวเดินทาง สำหรับจุดแรกของวันนั้นก็คือ ภูทอก นั่นเองครับ ภูทอกเชียงคาน อยู่ห่างจากถนนคนเดิน (ตัวอำเภอเชียงคาน) ประมาณ 5 กม. หากท่านที่มีรถส่วนตัวก็สามารถขับรถไปได้เลย โดยมุ่งหน้าไปทางแก่งคุดคู้ ทางเข้าจะอยู่ขวามือ สังเกตป้ายดีดีนะครับ หากท่านที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็สามารถให้ทางที่พักเรียกสามล้อให้ บางที่พักอาจจะมีบริการรถรับส่ง หรืออาจจะเดินมาขึ้นสามล้อบริเวณหน้าวัดท่าคก ก็ได้นะครับ ที่ตีนภูทอก จะมีลานจอดรถบริการ คันละ 20 บาท ห้องน้ำ 5 บาท หลังจากจอดรถเสร็จแล้ว ก็เดินเข้าไปซื้อบัตรเพื่อขึ้นรถไปยอดภูทอกได้เลยจ้า โดยค่าบริการจะอยู่ที่ คนละ 25 บาท มีรถรับ-ส่ง ขึ้นลง สามารถขึ้นหรือลงรถคันไหนก็ได้ตามคิวที่วิ่ง ณ เวลานั้นๆ จุดเด่นของภูทอก คือทะเลหมอกที่มองได้รอบด้าน 360 องศา เห็นเชียงคาน และฝั่ง สปป.ลาว ได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุด ที่มาเชียงคานแล้วไม่ควรพลาดครับแต่หากท่าน ตื่นไม่ทัน หรือไม่สามารถขึ้นภูทอกได้ อีกหนึ่งกิจกรรมยามเช้าที่เป็นจุดเด่นของเชียงคาน นั่นก็คือการใส่บาตรข้าวเหนียว นั่นเองครับซึ่งท่านสามารถทำได้บริเวณหน้าที่พักของท่านได้เลย โดยสามารถแจ้งที่พักไว้ก่อนนอนว่าต้องการใส่บาตร โดยข้าวเหนียวจะมีตั้งแต่กระติบละ 20-50 บาท ในการใส่บาตรข้าวเหนียวของชาวเชียงคานถือ ว่าเป็นกิจวัตรแรกของวันที่ต้องปฏิบัติก่อนที่จะแยกย้าย ออกไปทำภารกิจการงานของตนและสิ่งที่คนเชียงคานรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ได้ยึดถือและปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ ต้องไม่สวมรองเท้าเวลาใส่บาตร เนื่องจากพระสงฆ์ท่านเดินเท้าเปล่า ดังนั้นการสวมรองเท้าจะถือว่าอยู่สูงกว่าพระสงฆ์ ข้าวเหนียวที่จะนำมาใส่บาตร จะต้องเป็นข้าวเหนียวที่นึ่งมาใหม่ๆ และแยกออกมาโดยเฉพาะเพื่อใส่บาตรเท่านั้น การใส่บาตรข้าวเหนียวจะต้องหยิบข้าวเหนียวขึ้นมา เป็นก้อนเล็กๆ ไม่ต้องปั้น ใส่ลงไปในบาตร การใส่บาตรข้าวเหนียว ชาวเชียงคานจะไม่นิยมใส่อาหารใดๆ และชาวเชียงคานจะไม่นำเงินใส่บาตรพระโดยเด็ดขาด อีก 1 อย่าง อย่าลืมแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยและเหมาะสมด้วยนะครับหลังจากเสร็จกิจกรรมยามเช้าแล้ว ก็ถึงเวลาของอาหารเช้ากันแล้วครับ มาเชียงคาน พลาดไม่ได้เลยในมื้อเช้านั่นก็คือ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ร้านเด็ดที่อยากจะแนะนำนั่นก็คือ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว แม่บัวหวาน ซอย 14 บน ข้าวปุ้นรสแซบ เครื่องแน่นๆ น้ำซุบเด็ดๆ ราคาย่อมเยา มีทั้งเกาเหลา และข้าวปุ้นให้เลือกทานกันครับผมหลังจากอิ่มท้องกับมื้อเช้ากันแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวต่อกันครับ จุดเที่ยวต่อมาก็คือวัดศรีคุณเมือง วัดที่มีความเก่าเเก่ งดงามด้วยศิลปะแบบล้านนา เเละล้านช้าง สร้างขึ้นมาตั้งเเต่ปี พ.ศ.2485 พร้อมกับเป็น เเหล่งที่เก็บรวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เต็มไปด้วยของเก่าเเก่โบราณหลากหลายชิ้น ได้แก่ พระพุทธรูปไม้ ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง คาดกันว่าสร้างมาตั้งเเต่พุทธศตวรรษที่ 24-25ต่อมาไม่ห่างกันมากนักก็คือ วัดมหาธาตุ พระยาศรีอรรคฮาด เป็นผู้สร้าง ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2197 มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ 2 สิ่ง คือ วิหารเก่าผนังภายนอกด้านหน้า มีจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องพระเวสสันดรชาดก อีกหลังหนึ่งคืออุโบสถนั้นเป็นสถาปัตยกรรม ผสมผสานอยุธยา ล้านช้าง และรัตนโกสินทร์ หน้าปัน และคันทวย เป็นไม้สลักลายสวยงามแปลกตามาก นอกจากนั้นยังมีจิตรกรรมฝาผนังอีกด้วย สำหรับมื้อเที่ยงในเชียงคาน แนะนำยากมากครับขอบอก แต่ที่เด็ดๆ ก็น่าจะมี บังต๋องข้าวมันไก่ ร้านจ่าเขียวเชียงคาน ร้านจิตส้มตำ และอีกมากมาย ทานข้าวเสร็จแล้วเราก็จะเดินทางต่อ ที่วัดพระพุทธบาท ภูควายเงิน รอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า (หินลับมีด) ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยแตก แต่ไม่มีอักษรจารึกขนาดกว้างประมาณ 1 ศอก ยาวประมาณ1 วา รูปลักษณะเหมือนรอยพระพุทธบาทจริง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 นอกจากนี้ยังมีพระเจ้าใหญ่พุทธฉัพพรรณรังสีพระพุทธ รูปปูนปั้นสีขาวองค์ใหญ่และตามพระวรกายยังประดับด้วยกระจกเงาชิ้นเล็กๆ ให้ได้สักการะและสิ่งที่โดดเด่น สะดุดตาต่อผู้มาเยือนอีกสิ่งหนึ่งก็คือ ปูนปั้นรูปควายเงินที่ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถทางเข้าวัดนั่นเอง และภายในวัดมีกระต่ายเต็มไปหมด นับว่าเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆมากอีกหนึ่งวัดที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ วัดท่าแขก ตั้งอยู่ทางเข้าก่อนถึงแก่งคุดคู้ สถานที่เงียบสงบ ริมโขงที่มีพญานาค ที่ไม่เหมือนใคร สถานที่ ปฏิบัติธรรม ของหลวงปู่ชอบ และหลวงปู่หลุย พระเกจิของชาวเมืองเลยเลยวัดท่าแขกมาประมาณ 800 เมตร ก็จะมาถึงแก่งคุดคู้ หนึ่งในที่เที่ยวห้ามพลาดของเชียงคาน กับแก่งหินขนาดใหญ่กั้นลำน้ำโขง กิจกรรมล่องเรือชมโขง ที่แก่งคุดคู้มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แนะนำให้ทานอาหารเที่ยงกันที่นี่นะครับ เพราะได้อุดหนุนกลุ่มแม่บ้านด้วยก่อนกลับไปพักผ่อนเพื่อเก็บเเรง ไว้เดินถนนคนเดินอย่าลืมแวะซื้อของฝาก จากแก่งคุดคู้ นั่นก็คือมะพร้าวแก้วนั่นเองครับ จุดเด่นของมะพร้าวแก้วคือการทำสดใหม่ และคัดเกรดอย่างดี หอมหวานนุ่ม เหมาะสำหรับเป็นของฝากอย่างยิ่งครับที่สำคัญเที่ยวแบบ new normal อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับพลบค่ำก็ถึงเวลาของกิจกรรมยอดฮิต ถนนคนเดินเชียงคาน เริ่ม 16.00 น. ถึง 22.00 น. โดยประมาณ เปิดบริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด บริเวณถนนชายโขง ความยาวมากกว่า 1,000 เมตร ถนนคนเดินเชียงคาน กับภาพบ้านไม้ที่เรียงราย ร้านค้าที่ขายสินค้าอย่างหลากหลายสองฝั่งข้างทาง พร้อมกับแสงสียามค่ำคืนที่สว่างไสว ตลอดถนนคนเดิน ที่สำคัญยังมีถนนให้ชมความงดงามของบรรยากาศริมโขง พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าผ่านแม่น้ำโขง เรียกได้ว่าเดินได้ไม่มีเบื่อเลยล่ะครับสำหรับท่านที่มาเชียงคาน คัมภีร์เที่ยว 1 Day Trip Chiang Khan คงเป็นแนวทางได้นะครับว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เชียงคานถึงจะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความงดงาม โควิดซาผ่านมาแล้ว อย่าลืมมากอดเชียงคานให้หายคิดถึงกันนะครับ.. #COOLIsan #คิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ #คิดฮอดภูทอก